แกะกล่อง Nokia Lumia 625 เครื่องศูนย์ไทย

ผมจะต้องทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 ก็เลยต้องหาโทรศัพท์ที่รองรับระบบปฏิบัติการนี้มาใช้ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเป็น Windows Phone ยี่ห้อแรกที่นึกขึ้นมาได้ก็ต้องเป็น “Nokia” เท่านั้น จากงบประมาณที่จำกัด แต่ก็ไม่อยากได้ที่มันถูกมาก ก็เลยได้เจ้า “Lumia 625” ด้วยราคา 8,490 บาท มาเป็นเครื่องมือการทำงานในงานตัวใหม่ และได้ถ่ายรูปอุปกรณ์ตอนแกะกล่อง เผื่อไว้เป็นข้อมูลสำหรับคนที่อยากได้ไว้ศึกษาครับ

สเปคเบื้องต้นของ Lumia 625

  • CPU 1.2 GHz Dual Core Qualcomm Snapdragon™ S4
  • หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว Super Sensitive Touch/Corning Gorilla Glass 2.0
  • RAM 512 Mb / พื้นที่ที่มาพร้อมกับเครื่อง 8 Gb รองรับ Micro SD Card สูงสุดที่ 64 Mb
  • กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล
  • ความจุแบตเตอรี่: 2000 mAh
  • รองรับ Bluetooth,Wi Fi
  • มีวิทยุ FM ในตัว (ต้องเสียบหูฟัง)
  • ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8.0
อุปกรณ์ที่แถมมาภายในกล่องได้แก่
  • ตัวเครื่อง Nokia Lumia 625
  • คู่มือภาษาไทย
  • ตัวชาร์จ (ไม่สามารถถอดสายที่เป็นหัว USB ได้)
  • สาย USB สั้นๆ (ส่วนตัวโยนทิ้งเลย เพราะมันสั้นเกินต่อคอมลำบาก ไปเอาสาย USB ที่แถมมากับเครื่องอื่นมาใช้แทน)
  • หูฟัง
ด้านล่างก็เป็นภาพตอนแกะกล่อง

[caption id="" align=“alignnone” width=“332”]DSC_0146 ตัวกล่องด้านหน้า กระดาษกล่องคุณภาพกระดาษที่เอามาใช้บรรจุ ก็ไม่ดีแต่ก็ไม่ถึงขั้นแย่ คุณภาพตามราคา พร้อมหุ้มพลาสติกอ่อนมา[/caption]

[caption id="" align=“alignnone” width=“332”]DSC_0149 ตัวกล่องด้านหลัง[/caption]

[caption id="" align=“alignnone” width=“332”]DSC_0154 เมื่อแกะกล่องออกมา ก็จะเจอเจ้า Lumia 625 ที่ห่อด้วยพลาสติกนอนในกล่อง เหมือนกับบรรจุภัณฑ์สมาร์ทโฟนในสมัยนี้[/caption]

[caption id="" align=“alignnone” width=“374”]IMG_0013 ตัวเครื่องด้านหน้า[/caption]

[caption id="" align=“alignnone” width=“374”]IMG_0015 ตัวเครื่องด้านล่าง ก็มีกล้องและไฟแฟลช LED ขนาด ~ 1.0 ม[/caption]

[caption id="" align=“alignnone” width=“500”]DSC_0191 สามปุ่มมาตรฐาน Windows Phone[/caption]

[caption id="" align=“alignnone” width=“500”]DSC_0187 ปุ่ม Volume Up/Down ปุ่มเปิดปิด และ ถ่ายรูป จะอยู่ฝั่งเดียวกันทั้งหมด[/caption]

[caption id="" align=“alignnone” width=“500”]DSC_0164 ช่อง USB สำหรับชาร์จหรือเชื่อมกับคอมพิวเตอร์จะอยู่ด้านล่างตัวเครื่อง[/caption]

[caption id="" align=“alignnone” width=“332”]DSC_0179 ตัวฝาสามารถถอดแกะเปลี่ยนได้ (ใช้มือแงะในช่อง USB ตามคู่มือ)[/caption]

[caption id="" align=“alignnone” width=“500”]DSC_0166 โลโก้ Nokia ด้านหลังเครื่องจะสีจางๆหน่อย[/caption]

[caption id="" align=“alignnone” width=“332”]DSC_0172 ตัวเครื่องด้านหลัง จะพบว่าตัวเครื่องผลิตในจีน[/caption]

[caption id="" align=“alignnone” width=“500”]DSC_0173 ช่องเสียบซิมและ Micros SD Card จะติดกัน โดยช่องเสียบซิมจะอยู่ด้านบน ช่องเสียบ Micro SD Card จะอยู่ด้านล่าง[/caption]

[caption id="" align=“alignnone” width=“332”]DSC_0159 อุปกรณ์ชาร์จแบต (ถอดสายแยกไม่ได้)[/caption]

[caption id="" align=“alignnone” width=“500”]DSC_0161 ตัวชาร์แบต Made in China จ้า[/caption]

[caption id="" align=“alignnone” width=“500”]DSC_0157 สาย USB 2.0 ให้มาสั้นมากๆ[/caption]

[caption id="" align=“alignnone” width=“500”]DSC_0155 ชุดหูฟังที่แถมมา[/caption]

[caption id="" align=“alignnone” width=“500”]DSC_0163 ตัวหูฟังผลิตในเวียดนาม ต่างจากตัวเครื่องและที่ชาร์จแบต[/caption]

ส่วนการรีวิวนั้นอาจจะตามมาอีกสักพัก ขอใช้สักระยะนึงก่อนครับ